ทัวร์ฮ่องกง มาเก๊า จูไห่

00.30 น.                   คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขาออก ชั้น 4 โดยสายการบิน GREATER BAY AIRLINES (HB) โดยมีเจ้าหน้าที่คอย อำนวยความสะดวกด้านสัมภาระแด่ท่าน

*** หมายเหตุ: เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออก 60 นาที และไม่มีประกาศเตือนผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ดังนั้นผู้โดยสารจำเป็นต้องพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 45 นาที ***

03.00 น.                   เหินฟ้าสู่ ฮ่องกง เที่ยวบินที่ HB282 (ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.00 น.                   เดินทางถึง สนามบินเช็กแล็บก็อก (CHEK LAP KOK INTERNATIONAL AIRPORT) เขตปกครองพิเศษฮ่องกง นำท่านเข้าพิธีการตรวจคนเข้าเมือง หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รับกระเป๋าสัมภาระ เดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ (เวลาท้องถิ่นที่ฮ่องกงเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ มาเก๊า โดยรถโค้ช พาทุกท่านข้าม สะพาน HZMB หรือ สะพานเชื่อมฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า สะพานข้ามทะเลขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเกาะฮ่องกง จูไห่ และมาเก๊า โดยเป็นสะพานอุโมงค์ข้ามทะเล ที่ยาวที่สุดในโลก พร้อมชมวิวทะเลตลอดเส้นทาง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดอาม่า (A-MA TEMPLE) หรือศาลเจ้าแม่ทับทิม สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ปี ค.ศ. 1488 เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า โดยผสมผสานความเชื่อทางพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และคติความเชื่อพื้นบ้านเข้าด้วยกัน และยังตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณอันงดงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO เมื่อ ปี ค.ศ. 2005 เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เชื่อกันว่าที่มาของชื่อมาเก๊านั้น มาจากบริเวณวัดอาม่าแห่งนี้นี่เอง ในอดีตจะมีอ่าวที่ชื่อว่า A MA GOA (อาม่าก๊อก) แปลว่า อ่าวของอาม่า จึงเพี้ยนมาเป็นชื่อ มาเก๊า ในปัจจุบัน อีกตำนานเล่าว่า มีเด็กสาวชื่อว่า หลินโม ซึ่งเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดกว่าเด็กทั่วไปในช่วงอายุเดียวกัน สามารถหยั่งรู้ถึงความเจ็บไข้ได้ป่วย และเมื่อเธอเสียชีวิตลงบริเวณอ่าว A MA เธอก็มักจะคอยช่วยเหลือชาวประมงให้พ้นภัยอัตรายและปลอดภัย จึงกลายมาเป็นชื่อของวัดแห่งนี้ นิยมมาขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวโดยบูชาด้วย ธูปขด-เทียน หรือเทียนดอกบัวคู่เพื่อขอพรเรื่อง คู่ครอง-คนรัก นอกจากรูปปั้นเจ้าแม่อาม่า ยังมีก้อนหินขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ที่เจ้าแม่อาม่าเหยียบลงเป็นก้าวแรก เชื่อกันว่าหากนำธนบัตรที่ไปลูบกับภาพจำลองเรือแกะสลักบนหินแล้ว จะมีโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา และเป็นสิริมงคลของผู้ที่มาเยี่ยมเยือน

นำท่านเดินทางสู่ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (RUINS OF ST. PAUL’S) โบสถ์ที่หลงเหลือเพียงซากกำแพงด้านหน้าจากการโดนไฟไหม้ถึง 3 ครั้ง แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะจนสวยงาม เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของมาเก๊า ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของมาเก๊า นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกด้วย ซากโบสถ์เซนต์ปอล (ST. PAUL’S CHURCH) เป็นผนังด้านหน้า ที่มีขนาดความสูง 23 เมตร และมีความกว้าง 25.5 เมตร มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมสไตล์บาร็อค ผนังที่สร้างขึ้นจากหินแกรนิต ซึ่งถูกแกะสลักไว้อย่างประณีต โดยงานปฏิมากรรมรูปปั้น ที่บ่งบอกถึงลักษณะทางวัฒนธรรม และศิลปะของการผสมผสาน ระหว่างสไตล์ตะวันออก และตะวันตกในศตวรรษที่ 16 ได้เป็นอย่างดี ถูกสร้างตั้งแต่ ปี 1602 เสร็จใน ปี 1637 เป็นสมัยนั้นเป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก และใน ปี 1835 พายุไต้ฝุ่นได้ถล่มมาเก๊าอย่างรุนแรง ตัวโบสถ์เกิดไฟไหม้จนเหลือสภาพเป็นซากประตูโบสถ์ และใน ปี 1991 ก็ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จนเห็นกำแพงโบสถ์ที่สวยงามในปัจจุบัน ด้านหลังของซากโบสถ์แห่งนี้มีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาขึ้น เพื่อรวบรวมภาพเขียนและจัดแสดงอุปกรณ์ ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หลุมฝังศพของบาทหลวง วาลิคนาโน ผู้ก่อตั้งโบสถ์ ตลอดจนโครงกระดูกของชาวคริสต์ญี่ปุ่น และเวียดนามที่เสียชีวิตเมื่อคราวที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่

เที่ยง                         บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านไปยัง จัตุรัสเซนนาโด้ (SENADO SQUARE) จตุรัสใจกลางเมืองมาเก๊า ที่รายล้อมไปด้วยตึกรามบ้านช่อง และโบสถ์สไตล์ยุโรปซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกส เป็นแหล่งชอปปิ้งของมาเก๊า ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาจับจ่ายซื้อของ ซึ่งที่เซนาโดสแควร์ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ก่อตั้งมาพร้อมเมืองมาเก๊าเลยก็ว่าได้ แต่ในสมัยก่อนไม่ได้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง แต่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ ของทางราชการและเป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของมาเก๊า แต่ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งแหล่งเดินเที่ยวเล่นของชาวมาเก๊า และนักท่องจากทั่วทุกมุมโลก ลักษณ์เด่นที่ของเซนาโดสแควร์เป็นตึกเก่าสไตล์นีโอคลาสสิก สร้างขึ้นเมื่อช่วงศตวรรษที่ 19-20 ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีพื้นที่ทั้งหมด 3,700 ตารางเมตร เป็น 1 ใน 4 จตุรัส ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของมาเก๊า และใน ปี 2005 จตุรัสแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO’S WORLD HERITAGE ทางเดินต่างๆ ตกแต่งด้วยกระเบื้องและหินโมเสสหลากสีเป็นลายคล้ายคลื่นทะเล ออกแบบลวดลายโดยชาวโปรตุเกส ส่วนอาคารต่างๆ สไตล์ยุโรปที่อยู่รายล้อมจตุรัสแห่งนี้ ได้มีกฎไม่ให้ร้านต่างๆ ตกแต่งผนังด้านหน้าตึกเอง หากต้องการปรับเปลี่ยนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐก่อน จึงทำให้ตึกต่างๆ อยู่คงสภาพแบบสไตล์ดั้งเดิมอยู่นั่นเอง

นำท่านสักการะ เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล หรือที่รู้จักกันในชื่อของ เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คการท่องเที่ยว ของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ประเทศจีน เนื่องจากมาเก๊า เคยเป็นดินแดนในปกครองของประเทศโปรตุเกสมาก่อน จนกระทั่งถึง ปี 1999 ซึ่งก่อนที่จะมีการส่งมอบมาเก๊าคืนให้แก่จีน ได้มีโครงการในการสร้างอนุสรณ์สถาน เพื่อเป็นที่ระลึกในความสัมพันธ์อันดีระหว่างโปรตุเกสและมาเก๊า โดยสร้างเสร็จใน ปี 1999 นั่นเอง โดยรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมีให้บริการทางทั้งห้องสมุด สำหรับหาความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสถานที่ รวมถึงบริการอินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์สื่อมีเดียสำหรับเสริมความรู้ต่างๆ อีกมากมาย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เดอะเวเนเชี่ยน มาเก๊า (THE VENETIAN MACAU) ตั้งอยู่ในย่านโคไท ของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า ประเทศจีน เป็นโรงแรมหรูและ คาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในส่วนของโรงแรมถือเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย และยังเป็นอาคารที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลกอีกด้วย ประกอบไปด้วยโรงแรมหรูขนาด 3,000 ห้อง และในส่วนของคาสิโนมี 3,400 เครื่องสล็อต และ 800 โต๊ะพนัน และยังประกอบไปด้วยสถานที่ เพื่อความบันเทิงอื่นๆ ได้แก่ แซนด์ส ชอปปส์ (SANDS SHOPPES) เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดในมาเก๊า บนพื้นที่กว่า 51,000 ตารางเมตร ที่ประกอบไปด้วย สินค้าปลอดภาษีกว่า 850 ร้าน ของสินค้ากว่า 40 แบรนด์ โดยมีสินค้าหลากหลายให้เลือก ยังมีสนามกีฬาโคไทอารีนา สนามกีฬาในร่มความจุ 15,000 ที่นั่ง และมีกิจกรรมล่องเรือกอนโดลา (GONDOLA RIDES) ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ลองเรือกอนโดลาที่แสนโรแมนติก โดยคนแจวเรือที่เรียกว่า กอนโดเลียร์ ที่พาท่านล่องไปตามลำน้ำ พร้อมขับกล่อมด้วยเพลงอิตาเลี่ยนโด่งดัง ล่องผ่านซานลูกา, มาร์โคโปโล, และแกรนด์คาแนล นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างให้ท่านได้เลือกใช้บริการ

เย็น                          อิสระอาหารเย็น ไม่รวมในโปรแกรมทัวร์ **เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง**

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองจูไห่

ที่พัก XING CHENG HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว

เช้า                           บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินชมบรรยากาศริมทะเลของ “ถนนชิงลู่” ถูกขนานนามให้เป็น ถนนคู่รัก ทอดตัวยาวเรียบชายทะเลสุดเงียบสงบ มีต้นไม้เรียงรายเป็นระเบียบตลอดความยาวของถนน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ถือเป็นเส้นทางพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองจูไห่ มีวิวทิวทัศน์ท้องทะเลที่สวยงาม และภูมิทัศน์โดยรอบที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ บรรดาคู่รักนิยมจะพากันมาเดินเล่นชมวิวริมทะเล ซึมซับบรรยากาศสุดโรแมนติกและชมรูปปั้น จูไห่ฟิชเชอร์เกิร์ล (หวี่หนี) ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงตำนานแห่งความรักสุดยิ่งใหญ่ ของหนุ่มชาวบ้านธรรมดากับเทพธิดาแห่งท้องทะเล รูปปั้นหญิงงามถูกแกะสลักมาจากหินแกรนิตด้วยความวิจิตรงดงาม โดยมือของเธอนั้นได้ถือชูไข่มุกเอาไว้เหนือศีรษะ มีความสูงประมาณ 8 เมตร ยืนสง่างามอยู่บนก้อนหินริมอ่าวเซียงหู คอยต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองจูไห่

หลังจากนั้นนำท่านชมร้านหยก เครื่องประดับนำโชคของชาวจีน และนำท่านไปยัง ศูนย์สมุนไพรจีน บัวหิมะ มีสรรพคุณเป็นเลิศในด้านรักษาแผลไฟไหม้พุพอง และแมลงสัตว์กัดต่อย สามารถใช้เป็นยาสามัญประจำบ้านได้

จากนั้นนำท่านย้อนอดีตชมพระราชวังอันยิ่งใหญ่ที่ สวนหยวนหมิง จำลองมาจากพระราชวัง หยวนหมิงหยวนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ถูกทำลายและหลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง ณ ใจกลางของภูเขาชิลินในเมืองจูไห่ มีภูเขารายล้อมทั้ง 3 ด้าน ทำให้สวนแห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม สิ่งก่อสร้างต่างๆ นั้นถอดแบบมาจากของจริงทุกชิ้น อาทิ เสาหินคู่ สะพานข้ามธารทอง ประตูต้ากง ตำหนังเจิ้งต้ากวางหมิง สะพานเก้าเลี้ยว นอกจากนี้ ยังสามารถเดินชมความสวยงามของตำหนักไห่เหยี่ยนถัง และรูปปั้นนักษัตร 12 องค์ ได้อีกด้วย

เที่ยง                        บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม วัดผู่ถ่อ วัดที่มีทัศนียภาพสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความวิจิตรงดงามของศิลปะสถาปัตยกรรมโบราณ ภายในพระอุโบสถมีผนังสีเหลือง กระเบื้องสีดาดฟ้ามุมสูง พระพุทธรูปรูปทรงสวยงาม และมีท่าทางที่ชดช้อยสง่างาม หอระฆังที่นี่มีนาฬิกาทองแดงต้าลู่ห้อยลงมา ซึ่งมีน้ำหนักถึง 7,000 กิโลกรัม ซึ่งดูโดดเด่นสะดุดตาส่งเสียงก้องกันวานไปทั่ววัด

อิสระช้อปปิ้งที่ ตลาดใต้ดินก๋งเป่ย ตั้งอยู่ติดชายแดนมาเก๊าเป็นศูนย์การค้าติดแอร์ 5,000 กว่า ร้านค้า มีสินค้าให้เลือกมากมาย เช่น สินค้าก๊อปปี้แบรนด์เนมชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา ของเด็กเล่น ฯลฯ ที่นี่มีให้ท่านได้เลือกซื้อหมด ซึ่งเป็นที่นิยมมากของชาวมาเก๊าและฮ่องกง เนื่องจากสินค้าที่นี่มีคุณภาพและราคาถูก

เย็น                           บริการอาหารเย็น ณ ภัตตราคาร

ที่พัก XING CHENG HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว

เช้า                            บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ฮ่องกง โดยรถโค้ช พาทุกท่านข้าม สะพาน HZMB หรือ สะพานเชื่อมฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า สะพานข้ามทะเลขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเกาะฮ่องกง จูไห่ และมาเก๊า โดยเป็นสะพานอุโมงค์ข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก พร้อมชมวิวทะเลตลอดเส้นทาง และ นำท่านเดินทาง ผ่านเส้นทางไฮเวย์อันทันสมัย ข้ามสะพานแขวนซิงหม่า (TSING MA BRIDGE) ซึ่งเป็นสะพานแขวนสองชั้นที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวทั้งหมด 2.2 กิโลเมตร (1.4 ไมล์) เชื่อมต่อระหว่างฮ่องกงอินเตอร์เนชั่นนอลแอร์พอร์ตกับตัวเมืองฮ่องกง ตัวสะพานชั้นบนจะเป็นทางให้รถยนต์วิ่ง ส่วนชั้นล่างเป็นเส้นทางของเอ็มทีอาร์ (MTR) และแอร์พอร์ตเอ็กเพรสเทรนส์ (AIRPORT EXPRESS TRAINS) สะพานแขวนซิงหม่านี้ ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ของคู่รักทั่วโลกอีกด้วย

จากนั้นเดินทางสู่ เกาะฮ่องกง นำท่านสู่ ชายหาดรีพัลส์ เบย์ (REPULSE BAY) หาดทรายรูปจันทร์เสี้ยวแห่งนี้เป็นหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง และยังใช้เป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่ชาวฮ่องกง นักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะที่ วัดทินหัว อ่าวรีพัลส์เบย์ (TIN HAU TEMPLE REPULSE BAY) ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ สร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1993 มีรูปปั้นของ เจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพรตั้งอยู่ ซึ่งคนฮ่องกงและคนจีนให้ความเคารพนับถือมากที่สุด เชื่อว่าเป็นเทพที่มีความศักดิ์มากขอพรเรื่องการงานการเงิน และขอพรขอโชคลาภเพื่อเป็นสิริมงคลและขอพร เจ้าแม่ทับทิม หรือ เทพธิดาแห่งท้องทะเล ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองชาวประมง ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางสวนสวยที่ทอดยาวลงสู่ชายหาดให้ท่านนมัสการขอ และนำท่านเดินข้าม สะพานต่ออายุ ซึ่งเชื่อกันว่าข้ามหนึ่งครั้งจะมีอายุเพิ่มขึ้น 3 ถ้าข้ามแล้วห้ามเดินย้อนกลับไปเด็ดขาด เพราะคนฮ่องกงเชื่อว่าชีวิตจะสั้นลงไป 3 ปี สำหรับคนโสดจะนิยมขอพรกับ เทพเจ้าแห่งความรัก ให้เอามือลูบที่บริเวณหินสีดำ พร้อมกับอธิษฐานให้สมหวังกับความรัก ปิดท้ายด้วยการรับพลังฮวงจุ้ยจาก ศาลาแปดทิศ ซึ่งถือเป็นจุดรวมรับพลัง ถือเป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดของเกาะฮ่องกง และยังมีรูปปั้นองค์เทพอีกมากมายภายในวัดแห่งนี้ให้กราบไหว้ขอพร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดหลินฟ้า (LIN FA KUNG TEMPLE) หรือ วังดอกบัว สร้างขึ้นใน ปี 1863 มีเจ้าแม่กวนอิม เป็นองค์ประธานของวัด เป็นวัดจีนตั้งอยู่บริเวณหว่านจ๋าย คอสเวย์เบย์ มีตำนานเล่าว่าเจ้าแม่กวนอิมเคยปรากฏกายที่วัดแห่งนี้ เป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน จึงร่วมใจกันสร้างวิหารลักษณะคล้ายดอกบัวนี้ขึ้น และประดับด้วยโคมไฟดอกบัวร้อยโคม เมื่อมองเข้าไปด้านในวิหารจะทำให้รู้สึกถึงความเจริญรุ่งเรือง เปรียบเสมือนว่าแค่มาไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่วัดแห่งนี้ ก็จะทำให้ผู้มาเยือนได้มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป และยังมี เทพเจ้าฮ่าวจื่อเอี๊ยะ หรือที่รู้จักกันในนาม เทพเจ้าโชคลาภสายนรก เป็นเทพที่ขึ้นชื่อเรื่องความกตัญญู และด้านเงินทอง ผู้ใดที่ได้ไปไหว้ขอพรท่าน เชื่อว่าจะทำให้มีโชคลาภแบบไม่คาดคิด และสมหวังอย่างเร็วไว ใครที่ชอบเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง หรือ คอหวย คอลอตเตอรี่และท่านที่ชอบเดิมพัน ถ้ามาขอพรที่นี่แล้วจะทำให้สมหวังดังปรารถนาในเร็ววัน

เที่ยง                          บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตราคาร..เมนูชาบูสไตล์ฮ่องกง...

จากนั้นนำท่านสู่ เจ้าแม่กวนอิม วัดฮองฮำ (HUNG HOM KWUN YUM TEMPLE)  เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของฮ่องกง และชาวฮ่องกงเลื่อมใสกันมาก สร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1873 ในสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการปล่อยระเบิดลงบริเวณใกล้กับวัดแห่งนี้หลายต่อหลายครั้ง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายมากมาย แต่ชาวบ้านที่หนีเข้าไปหลบภัยในวัดนี้กลับปลอดภัยอย่างปาฏิหาริย์ และตัววัดก็ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดอย่างน่าอัศจรรย์ ตามความเชื่อของคนจีนใน ฮ่องกง–มาเก๊า จะมี "วันเปิดทรัพย์" หรือ "พิธียืมเงิน เจ้าแม่กวนอิมฮ่องกง" เป็นวันที่จะมาขอพรและยืมเงินเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งนับจากหลังวันตรุษจีนไป 26 วัน จะเป็นวันเปิดทรัพย์ที่จัดขึ้นในทุกๆ ปี พิธีนี้จะมีเพียงครั้งปีละครั้งเท่านั้น เป็นวันสำคัญอีกวันที่คนหลั่งไหลมาไหว้ขอพรอย่างไม่ขาดสาย

นำท่านชม โรงงานจิวเวลรี่ ที่ขึ้นชื่อของฮ่องกง ท่านจะได้พบกับงานดีไชน์ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม และใช้ในการเสริมดวงเรื่องฮวงจุ้ย โดยการย่อใบพัดของกังหันที่เป็นสัญลักษณ์ของวัดวัดแชกงหมิว มาทำเป็นเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็น จี้, แหวน, กำไล หรือต่างหู เพื่อเป็นเครื่องประดับติดตัว และเสริมดวงชะตา ซึ่งสินค้าทุกชิ้นมีเอกสารรับประกันคุณภาพเปลี่ยนหรือซ่อม ได้ตลอดอายุการใช้งาน หากเกิดการชำรุดจากสินค้าไม่ใช่อุบัติเหตุ และนำท่านชม ร้านหยก ซึ่งคนจีนนั้นถือว่าหยกเป็นหิน ที่เป็นตัวแทนของความสวยงามและความบริสุทธิ์ มีความเชื่อว่าหยกมงคล ถ้าพกติดตัวไว้จะอายุยืนและสุขภาพดี มีสินค้ามากมายเกี่ยวกับหยก อาทิ กำไลหยก หรือสัตว์นำโชคอย่างปี่เสี๊ยะ ให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก หรือของนำโชคแด่ตัวท่านเอง

นำท่านเดินทางสู่ วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดหว่องไท่ซิน เป็นวัดลัทธิเต๋าที่ชาวฮ่องกงและชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความศรัทธากันมาก วัดนี้มีอายุกว่าร้อยปี ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่ใครมาขอพร ก็จะสมปรารถนาทุกสิ่ง เป็นหนึ่งในวัดที่โด่งดังที่สุดของฮ่องกง วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าจีนหลายองค์ เทพเจ้าหลักของวัดคือเทพหวังต้าเซียน ท่านเทพเจ้าหวังต้าเซียน ชื่อเดิมคือ “หว่องซ้อเผ่ง” เป็นมนุษย์ธรรมดา เป็นเด็กเลี้ยงแพะที่มีความกตัญญูต่อบิดามารดา เมื่อถึงวันหนึ่งได้มีโอกาสพบกับนักพรต และได้รับการชักชวนให้ไปเล่าเรียนวิชา ท่านหว่องซ้อเผ่ง ตัดสินใจตามนักพรตออกไปศึกษาเล่าเรียนวิชา จนบรรลุฯ สามารถเสกก้อนหินให้กลายเป็นแพะได้ หลังจากนั้นก็ได้ลาอาจารย์นักพรต กลับมาใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาด้านสมุนไพร ใช้รักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ท่านได้ใช้วิชาการแพทย์สมุนไพร บำเพ็ญประโยชน์กับชาวบ้านมาตลอดช่วงชีวิต และยังถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์มากมาย จนได้รับยกย่องว่าเป็นเทพหว่องไท่ซิน และได้ตั้งศาลหว่องไท่ซินเอาไว้ เพื่อกราบสักการะ นอกจากนี้ ยังเป็นวัดที่ใครหลายๆ คนนิยมมาขอพรกับเทพเจ้าด้ายแดง “เทพเจ้าหยุคโหลว” หรือที่รู้จักกันในนามเทพเจ้าแห่งจันทรา หรือ ผู้เฒ่าแห่งดวงจันทร์ (The Old Man from The Moon) ซึ่งโด่งดังเรื่องการขอเนื้อคู่สุดๆ อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยมสำหรับคนโสดที่อยากมีคู่ บริเวณรูปปั้นเทพเจ้าแห่งจันทรา เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ที่ดลบันดาลให้สมหวังในเรื่องความรัก และจะพบรูปปั้นเจ้าบ่าว อยู่ทางขวา และรูปปั้นเจ้าสาวอยู่ทางซ้าย โดยมีด้ายแดงผูกโยงจากเจ้าบ่าว และเจ้าสาวมาที่เทพหยุคโหลว ซึ่งท่านจะคอยทำหน้าที่จดรายชื่อคู่รัก เชื่อกันว่าสมุดที่ผู้เฒ่าถือในมือ คือบัญชีรายชื่อคู่รักที่จะได้รับคำอวยพรให้อยู่คู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ซึ่งจะปรากฏตัวยามค่ำคืนภายใต้แสงจันทร์ เป็นเทพเจ้าผู้เป็นอมตะที่อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ และลงมาโลกมนุษย์เพื่อผูกด้ายดวงชะตา ระหว่างคู่รักซึ่งเมื่อคู่กันแล้วก็จะไม่แคล้วคลาดกัน และมีความรักที่มั่นคงและยืนยาว

นำท่านเดินทางสู่ วัดแชกงหมิว หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “วัดกังหันลม” โดยมีสัญลักษณ์เป็นกังหันนำโชค สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงท่านแชกงองค์เก่าแก่ มีอายุกว่า 300 ปี ตั้งอยู่ในเขต SHATIN ให้ท่านได้จุดธูปขอพร สักการะ เทพเจ้าแชกง เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีตามตำนานเล่ากันว่าได้มีโจรสลัดต้องการที่จะมาปล้นชาวบ้าน เมื่อนายพลแชกงรู้เข้าก็ได้บอกให้ชาวบ้านพับกังหันลมแล้วนำไปติดไว้ที่หน้าบ้าน ปรากฎว่าโจรสลัดได้จากไปและไม่ได้ทำการปล้น ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่ากังหันลมนั้นช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเข้ามา และนำพาสิ่งดีๆ มาสู่ตน จึงได้สร้างวัดแชกงแห่งนี้ขึ้น เพื่อระลึกถึงนายพลแชกง และเป็นที่สักการะบูชาเพื่อไม่ให้มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น โดยจะมีวิธิการไหว้ คือ ตั้งจิตอธิษฐานด้านหน้าองค์เจ้าพ่อแชกง จากนั้นให้ท่านหมุนกังหัน จะมีกังหัน 4 ใบพัด แต่ละใบหมายถึงพร 4 ประการ คือ เดินทางปลอดภัย, สุขภาพแข็งแรง, สมความปรารถนา, และโชคลาภเงินทอง เชื่อกันว่าหากหมุนครบ 3 รอบและตีกลอง 3 ครั้ง ถือว่าเป็นการช่วยหมุนปัดเป่าเอาสิ่งร้ายและไม่ดีออกไปให้หมด และนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาแทน

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ย่านจิมซาจุ่ย เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง มีร้านขายของทั้งเครื่องหนัง, เครื่องกีฬา, เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแบบที่เป็นของพื้นเมืองฮ่องกงอยู่ด้วย อีกทั้งสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงร้านอาหาร ตั้งอยู่บนถนนนาธาน ถนนทอดยาวตั้งแต่ จิมซาจุ่ย จนถึงย่านปริ๊นซ์เอ็ดเวิร์ด เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆมากมาย ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนมระดับ HI-END ชื่อดังทั่วโลก ห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัย จากถนนนาธานไปที่ถนนแคนตัน ท่านจะตื่นตาตื่นใจไปกับเอาต์เล็ตแบรนด์ที่เรียงติดกันเป็นแถบ นอกจากนี้ยังมี HARBOUR CITY ศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ของฮ่องกง ซึ่งมีร้านค้ากว่า 450 ร้าน รวมอยู่ที่นี่ และมี SHOPPING COMPLEX ขนาดใหญ่ ชื่อ OCEAN TERMINAL ซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าเรียงรายกันอยู่ และมีทางเชื่อมติดต่อกันสามารถเดินทะลุถึงกันได้ มีสินค้าแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น GIORDANO, BOSSINI, COACH, LONGCHAMP, LOUIS VUITTON, PRADA, HEMES และอีกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเช็กแล็บก็อก

22.40 น.                    ออกเดินทางจากสนามบินเช็กแล็บก็อก สู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน GREATER BAY AIRLINES เที่ยวบิน HB297 (ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

00.45 น.+1 น.           ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม